People are assets เพราะ คนคือสินทรัพย์ขององค์กร


การผลิตสิ่งของเริ่มต้นจากการผลิตคน
Toyota มีแนวคิดและสนับสนุนให้พนักงานแต่ละคนคิดและทำงานด้วยตัวเองเพื่อผลิตสิ่งของที่มีคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ได้มากที่สุด

พนักงานของเราซึ่งเรียกตัวเองว่า กูเกลอร์ คือทุกสิ่งทุกอย่างของ Google

Google บริหารองค์กรโดยตั้งอยู่บนรากฐานของความสามารถในการดึงดูดและใช้ประโยชน์จากความเก่งกาจของนักเทคโนโลยีและพนักงานที่ยอดเยี่ยมเราโชคดีที่มีพนักงานดีเด่นจำนวนมากที่มีความคิดสร้างสรรค์ยึดมั่นในหลักการและขยันขันแข็ง

Toyota อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งอาศัยแรงงานจำนวนมากในการผลิตและไอเดียของพนักงานในการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทำให้องค์กรอยู่รอด มีกำไร และเติบโต อย่างยั่งยืน

Google อยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อาศัยไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของชีวิต user ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ google ให้มีชีวิตง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ดีขึ้น

2 บริษัทนี้เหมือนว่าไม่มีอะไรเหมือนกันเลย
แต่จริงๆ แล้วเหมือนกันมากๆ ในแนวคิด
'เกี่ยวกับคน'

2 บริษัทระดับโลก เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากๆ สิ่งที่เขาให้ความสำคัญเหมือนกัน คือ #คน
และเป็นสิ่งที่เค้าเชื่ิออย่างมากว่า คน คือ สินทรัพย์
พนักงาน หรือ คน คือ สิ่งที่มีค่าที่สุด ที่ทำให้บริษัทสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาสร้างรายได้ให้แก่บริษัทได้

ด้วยความเชื่อที่แตกต่างเหล่านี้ ทำให้การดูแลพนักงานสภาพแวดล้อมในการทำงานรวมไปถึงสวัสดิการของพนักงานแตกต่างจากที่อื่น
และเป็นบทพิสูจน์ว่าความเชื่อนี้ทำให้ 2 บริษัทระดับโลก ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนมาถึงทุกวันนี้

หลายๆ องค์กรบอกว่าตัวเองให้ความสำคัญกับคน แต่การปฏิบัติจริงไม่ตรงกับสิ่งที่พูด
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง

☑️การดูแลพนักงาน
☑️การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน
☑️การสร้างเวทีให้พนักงานได้แสดงความสามารถ

นี่ยังไม่พูดถึงสวัสดิการที่ให้แก่พนักงาน
เพราะสิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำไม่ตรงกันข้ามกันพนักงานก็ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจกับผู้บริหาร

ดังนั้นไม่แปลกค่ะที่ประสิทธิภาพการทำงานจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้

เมื่อไม่มีความเชื่อใจ 
ศักยภาพก็จะไม่ถูกดึงออกมา


Respect for people ดูแลพนักงานให้ดีค่ะ
เพราะ "ความสามารถของคนไร้ขีดจำกัด"

แบ่งปันการสร้างคนแบบลีน Lean Habit
ที่เพจ Dr. Lean - หมอลีน ➡️ https://facebook.com/drleanmolean


ด้วยรัก
Dr.Lean - หมอลีน

No comments:

Powered by Blogger.